
ตั้งแต่ถอดสบงออกมาสวมชุดราตรีจิกส้นสูง เข้าสู่โหมดพิธีกรสาวโชว์ฝีมือการเป็นพิธีกรอ่านข่าวไปแล้วหลายรายการ สำหรับ “แพรรี่ ไพรวัลย์” ล่าสุดเจ้าตัวยังได้รับโอกาสครั้งใหญ่ จากอมรินทร์ทีวี เอชดี 34 ให้นั่งแท่นผู้ประกาศข่าวรายการดัง “ทุบโต๊ะข่าว” แต่ก็ไม่วายโดนทัวร์ลง ตามมาด้วยประเด็นดราม่าขึ้นทันที งานนี้เจ้าตัวขอเปิดใจถึงบทบาทครั้งใหม่ว่า
ในบรรดาผู้ประกาศข่าวเซ็ทใหม่ ทุบโต๊ะข่าว ดูเหมือนว่า แพรรี่ ไม่มีความกดดันเลย?
"เป็นไปไม่ได้ เรากดดันมาก อันนี้มันค่อนข้างเป็นงานเป็นการ เหมือนมันเป็นบุคลิกเราไปอีกทางหนึ่ง เพราะเราเคยทำรายการก็จริงเป็นพิธีกรก็จริง แต่ลุคไม่ได้เป็นทางการขนาดนี้ มันก็ยาก คือเราต้องทำการบ้านเหมือนกัน ปรับบุคลิกท่าทีที่มีต่อข่าวที่เราจะอ่าน จังหวะจะโคนต่างๆ มันยากเหมือนกันในการเป็นคนอ่านข่าวค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากอยู่ แต่พยายามจะทำเต็มที่ เพราะผู้ใหญ่ให้โอกาสเราในการทำงานถือว่าเป็นประสบการณ์เป็นการเรียนรู้ เราก็ต้องทำให้เต็มที่
ทุกคนจะเห็นแพรรี่ในเวอร์ชั่นที่จริงจังมากขึ้น?
"แน่นอน เพราะปกติเราทำแต่สายเอนเตอร์เทนข่าวบันเทิง แต่การเป็นผู้ประกาศข่าวแล้วทำไม่ได้ เราก็ดูศึกษาจากพิธีกรคนอื่นที่ทำงานด้วยกัน อย่างพี่วิลลี่-น้องเจนนี่ เค้าก็ไปหมดแล้ว พอคราวนี้ถึงคิวเราทุกคนเคยทำออกมาดีหมด ความกดดันเลยมาอยู่ที่เรา ถ้ามันจะมาตุ๊บอยู่ที่เราก็แล้วแต่เวรแต่กรรม เราก็ติดตามคนอื่นเหมือนกัน ทุกคนทำได้เราก็ต้องทำได้"
ตอนแรกทุกคนจับจ้องว่าเราน่าจะไปจัดรายการโหนกระแส แทนเวลา “หนุ่ม กรรชัย” ไม่ว่างมากกว่าจะมาทำรายการ ทุบโต๊ะข่าว?
"เราต้องเอา ต้องทุบตรงนี้ให้ได้ก่อน ก่อนที่จะไปเชียร์ให้ไปรายการโน้น เพราะถ้าทุบไม่ดีตัวเองก็จะโดนทุบซะเอง เราก็ต้องทุบโต๊ะข่าวให้มันได้ก่อน โหนกระแส เค้ามีพี่แคน อติรุจอยู่แล้ว เค้ามีครูประจำชั้นแทนครูใหญ่อยู่แล้ว"
ทำไมถึงเลือกที่จะมาทำข่าวช่องอมรินทร์กับ รายการทุบโต๊ะข่าว?
"จริงๆมันเป็นจังหวะและโอกาสมากกว่าที่ผู้ใหญ่เค้าเห็นว่าเราอาจจะทำงานได้ ก็เลยอยากให้โอกาสกับเราได้ลองเรียนรู้ ซึ่งเราก็ไม่อยากให้โอกาสที่เราได้รับหลุดลอยไปเพราะถือว่าทุกอย่างเป็นประสบการณ์และเป็นโอกาสและเราต้องลองทำก่อน ดีไม่ดีเราก็ต้องปรับปรุงแก้ไข เพราะอย่างเราเองครั้งหนึ่งเคยจะไปเป็นคนที่ให้สัมภาษณ์หรือเป็นคนในข่าวแต่วันนี้เรามาพลิกบทบาทเป็นคนอ่านข่าวคนอื่นถ้าเรามีความไว้ก็น่าเสียดาย"
กับลุคการที่เราใส่วิกจะเป็นดราม่าตามมาไหม?
"อันนี้เราก็ต้องเรียบร้อย จะมาใส่โบว์สีๆ ไม่ได้เลย ปกติจะชอบตีโป่งฟาร่า อันนี้ก็ไม่ได้เลยเพราะเค้าขอแบบ เรียบร้อย และชุดก็อะไรก็ไม่รู้ไม่เป็นตัวเองเลย ซึ่งก็ควรเป็นคนอื่นบ้างอย่าเป็นคนอื่นตลอดเลย อันนี้เรารับบทเป็น “พี่จิตดี”
มีใครเป็นต้นแบบในวงการข่าว?
"นึกถึงใครไม่ได้เลย เพราะเราเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เสพข่าว ซึ่งเราก็ดูแต่ พี่หนุ่ม กรรชัย เพราะเราไม่ได้มีไอดอลที่เป็นนักข่าวจริงๆ ณ ตอนนี้หนูว่าทุกคนกดดันหมด แต่ว่าไม่อยากให้ความกดดันไปทำให้เรากลัวไปเลย และเดี๋ยวมันจัดทำให้เราประหม่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ขอให้มันเป็นธรรมชาติใจดีสู้เสือ
ตอนนี้เจอกระแสดราม่าว่าเราไม่มีใบผู้ประกาศข่าว?
"เขามีสิทธิ์ที่จะพูด ใดใดให้โฟกัสที่ความสามารถแล้วกัน บางคนอาจจะไม่มีใบอย่างน้องเจนนี่แต่เค้าเอกภาษาไทยเคยโต้วาทีมาก่อนและเขามานั่งอ่านข่าว จริงๆ ความไม่เหมาะสมของเค้าถ้ามองในแง่ว่าพวกเราไม่มีใบอันนี้เราไม่เถียง แต่ถ้าเราอ่านแล้วเราสามารถทำได้ไม่ดีเท่ากับผู้ประกาศที่เค้ามีใบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้วงการข่าวมันเสียหายมันก็ควรเอ็นดูเมตตากันไป และส่วนเรื่องใบอาจจะไปสอบกันในอนาคต ก็ค่อยว่ากันอีกเรื่องนึงถ้าจะเอาดีหรือจริงจังทางด้านสายวิชาชีพข่าว ก็ขอฝากด้วยค่ะ อย่ามาทัวร์ลงอะไรเลยเพราะว่าทำเต็มที่แล้ว สุดความสามารถแล้วยิ้มสู้อย่างเดียว"

#แพรรี่ไพรวัลย์ #ทุบโต๊ะข่าว #ผู้ประกาศข่าว #ren #ringsideentertainnews